Date : 2025-12-22

สื่อเกาหลีใต้ ขึ้นหน้าหนึ่ง !! “ทีมชาติไทย” แพ้เวียดนาม เพราะอะไร
สื่อเกาหลีใต้ขึ้นหน้าหนึ่ง! “ทีมชาติไทย” ไม่ได้แพ้เวียดนาม แต่แพ้ “เกาหลีใต้”

สื่อเกาหลีใต้รายงานถึงความพ่ายแพ้ของ ทีมชาติไทย ต่อ ทีมชาติเวียดนาม ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชาย ซีเกมส์
โดยตั้งพาดหัวข่าวในทำนองเดียวกันว่า “ไทยไม่ได้แพ้เวียดนาม แต่แพ้เกาหลี”
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่สื่อเกาหลีใต้ติดตามผลงานของ คิม ซัง ซิก อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่าเขาเป็นทายาทสายตรงของโค้ชเกาหลีระดับตำนานในอาเซียน
ไม่ว่าจะเป็น ปาร์ค ฮัง ซอ อดีตกุนซือทีมชาติเวียดนาม หรือ ชิน แต ยัง ที่เคยสร้างชื่อในระดับทวีป โดยสื่อเกาหลีให้ความสนใจคิม ซัง ซิก ในลักษณะเดียวกับที่สื่อญี่ปุ่นจับตาโค้ชอิชิอิ
สื่อแดนโสมขาวระบุว่า แม้ไทยจะออกนำก่อนถึง 2-0 แต่กลับไม่สามารถรักษาความได้เปรียบไว้ได้ในครึ่งหลัง
นักเตะไทยแสดงอาการอ่อนล้าจนถูกเวียดนามพลิกสถานการณ์แซงกลับมาเอาชนะได้อย่างน่าตกใจ
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ความแตกต่างที่แท้จริงอยู่ที่ คุณภาพของเฮดโค้ชและการจัดการเกม
รายงานข่าวยังอ้างถึงบทสนทนาเชิงสัญลักษณ์ โดยพูดถึง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า
เมื่อถูกตั้งคำถามถึงสาเหตุความพ่ายแพ้ เธอได้นิ่งเงียบ สูดลมหายใจลึก และมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่า สื่อเกาหลีตีความว่านั่นคือการยอมรับความจริงอันเจ็บปวดว่า ไทยแพ้ให้กับมันสมองของโค้ชเกาหลี
สื่อเกาหลีตั้งคำถามต่อไปว่า เหตุใดประเทศเกาหลีใต้จึงสามารถผลิตโค้ชที่ประสบความสำเร็จในอาเซียนได้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ปาร์ค ฮัง ซอ มาจนถึงคิม ซัง ซิก
พร้อมชี้ว่า เวียดนามไม่เพียงพัฒนาด้านแท็กติกเท่านั้น แต่ยังมีความแข็งแกร่งทางร่างกาย ความมีวินัย และระบบสนับสนุนที่เป็นมืออาชีพ ทั้งสนามแข่งขัน สิ่งอำนวยความสะดวก และโครงสร้างทีม
นอกจากนี้ สื่อเกาหลียังเสนอความเห็นเชิงตั้งคำถามไปยังแฟนบอลในประเทศว่า เหตุใดประเทศไทยซึ่งมีทั้งงบประมาณ โครงสร้าง และทรัพยากรที่พร้อม
จึงยังไม่เลือกใช้โค้ชเกาหลี ทั้งที่สามารถยกระดับทีมได้อีกขั้น พร้อมหยิบยกชื่อ ชิน แต ยัง ที่เคยแสดงความสนใจอยากคุมทีมชาติไทยในอดีตขึ้นมาพูดถึง
สื่อเกาหลีสรุปว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจไม่ใช่จุดจบของฟุตบอลไทย แต่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่า หากไม่เร่งปรับทิศทาง โดยเฉพาะในเรื่องผู้นำทีมและแนวคิดการทำทีม
ไทยอาจต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากซ้ำแล้วซ้ำเล่าในอนาคต ขณะที่คำถามสำคัญยังคงถูกทิ้งไว้ว่า ถึงเวลาหรือยังที่ทีมชาติไทยจะมี “คิม ซัง ซิก” เป็นของตัวเอง
Date : 2025-12-22